top of page

        เด็กตาวาวหรือตาเพชร ไม่ใช่ผู้มีบุญมาเกิด แต่เป็นอันตรายต่อตัวเด็ก การไม่ยอมพาเด็กไปรักษา ทำให้อาการทรุดหนักมากขึ้นจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

        ดังนั้นเมื่อพบอาการผิดปกติให้รีบพาเด็กไปพบจักษุแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือ หน่วยตรวจโรคจักษุวิทยา ชั้น 5          ตึกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลศิริราช  โทร 02-419-7399 วันจันทร์ถึงวันศุกร์ 9.00-12.00 น. ยกเว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์

1-retinoblastoma-08.jpg

การรักษา 
       ทางเลือกวิธีรักษาในปัจจุบัน  แนวทางการรักษามีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับขนาดและการกระจายของโรค  การเป็นโรคในตาข้างเดียวหรือทั้ง 2 ข้าง และสภาพร่างกายของผู้ป่วย  


1. การผ่าตัดนำลูกตาออก 
       ถ้าก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่ และไม่สามารถรักษาสภาพการมองเห็นได้แล้ว การรักษาคือ การผ่าตัดนำลูกตาออก  ถือเป็นการผ่าตัดที่ไม่ยาก และแพทย์สามารถใส่ลูกตาปลอมให้เด็กได้ภายใน 3-6 สัปดาห์หลังผ่าตัด
       การรักษาโดยวิธีนี้จะทรมานจิตใจทั้งผู้ปกครองมากจนบางครั้งผู้ปกครองบางคนปฏิเสธการรักษา และเปลี่ยนไปรักษาด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ  หรือนำเด็กกลับไปอยู่บ้าน  และกลับมาพบแพทย์อีกครั้ง เมื่อมะเร็งแพร่กระจายไปมาก จนอาจเสียชีวิตได้ ดังนั้นถ้ามะเร็งเป็นมากจนมีข้อบ่งชี้ว่าต้องผ่าตัดเอาลูกตาออก ก็ควรจะทำ เพื่อที่จะรักษาชีวิตของเด็กเอาไว้ ส่วนเรื่องที่ไม่มีดวงตานั้น แพทย์สามารถใส่ตาปลอมที่เป็นพลาสติกแทนได้ ทำให้เด็กไม่มีปัญหาเรื่องความสวยงาม ที่สำคัญอย่าพาเด็กไปอยู่บ้านเฉยๆ เพราะเด็กจะเป็นมากจนเสียชีวิตได้ แทนที่จะเสียดวงตาเท่านั้น

 
2. รังสีรักษา          
      โดยทั่วไปถือว่าโรคมะเร็งจอตาในเด็ก  เป็นมะเร็งที่ตอบสนองต่อการรักษาโดยการฉายรังสี อย่างไรก็ตาม 
      ภาวะแทรกซ้อนของการฉายรังสี  คืออาจทำลายเนื้อเยื่อใกล้เคียง ก่อให้เกิดเป็นต้อกระจกในภายหลังได้ และอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อจอตาได้เช่นกัน นอกจากนี้ การฉายรังสีจะมีผลต่อการเจริญของเนื้อเยื่อกระดูกที่อยู่ใกล้ ๆ ลูกตา อาจทำให้เกิดมะเร็งกระดูกได้


3. เคมีบำบัด
      ในปัจจุบันการรักษาโดยวิธีนี้  ช่วยให้หลีกเลี่ยงการฉายรังสีหรือการผ่าตัดนำลูกตาออกได้ในผู้ป่วยบางราย ยาเคมีบำบัดที่ใช้มีหลายชนิด ซึ่งจำเป็นต้องใช้ร่วมกัน ทำให้อาจเกิดผลข้างเคียงได้มากผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล


4. การวางแร่
        เป็นวิธีที่ให้รังสีรักษาเฉพาะที่บริเวณก้อนมะเร็ง ซึ่งมีขนาดปานกลาง  ข้อดีของวิธีนี้คือผู้ป่วยไม่เสี่ยงต่อภาวะผิดปกติของกระดูกเบ้าตา
        ภาวะแทรกซ้อน : อาจเกิดความผิดปกติของหลอดเลือดในจอตา 


5. การรักษาด้วยแสงเลเซอร์
        เป็นการรักษาโดยใช้ลำแสงเลเซอร์ เพื่อทำลายก้อนมะเร็งขนาดเล็ก
        ภาวะแทรกซ้อน : อาจเกิดจอตาฉีกขาด, จอตาลอกหลุด 


6. การจี้ด้วยความเย็น
        เป็นการรักษาโดยใช้ความเย็นทำลายเซลล์มะเร็ง การรักษาด้วยวิธีการจี้ความเย็นใช้ได้กับก้อนมะเร็งขนาดเล็ก
        ภาวะแทรกซ้อน: อาจเกิดจอตาฉีกขาด, จอตาลอกหลุด, ม่านตาอักเสบ

บรรณานุกรม

ศ.พญ.ละอองศรี อัชชนียะสกุล. “โรคมะเร็งจอตาในเด็ก (Retinoblastoma).” Siriraj E-Public

             Library, 8 Nov. 2012, www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=999.

ภาพประกอบ

1. http://www.centreforsight.net

2. http://www.djo.harvard.edu

3. https://salud-salud-salud-

saludsalud.blogspot.com

4. https://wechope.org/retino blastoma

5. http://mychildscancer.org/ retinoblastoma-2/

6. https://www.flickr.com/ photos/communityeyehealth

© 2019 Kantaphon Wongchamcharoen

bottom of page